แนะนำที่เที่ยวเจนีวา (Geneva) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
วินเทอร์ เวิลด์ ทัวร์ จะพาท่านไป ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ กันที่เจนีวา (Geneva) กันจ้า ดินแดนอันงดงามแห่งเทือกเขาแอลป์ ที่นี่คือหนึ่งในเมืองยอดนิยมที่หลายคนปักหมุดเป็นจุดหมายปลายทางเมื่อมาเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ เมืองนี้ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) ที่งดงามจนได้รับการขนานนามว่าเป็นอัญมณีแห่งสวิตเซอร์แลนด์ตะวันตก มีสเน่ห์ด้วยบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างความหรูหรา ความเงียบสงบ และความงามของธรรมชาติได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเดินเล่นริมทะเลสาบ จิบกาแฟชิล ๆ ในคาเฟ่ หรือเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ระดับโลก เจนีวาก็พร้อมมอบความประทับใจถึงขีดสุดในทุกฤดูกาลได้อย่างแท้จริง
เจนีวา (Geneva) เป็นเมืองที่ใหญ่อันดับสองของสวิตเซอร์แลนด์รองจากเมืองซูริค (Zurich) และถือเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในภูมิภาคนอร์ม็องดี (Normandy) ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นหลักของสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำโรน (Rhone river) ซึ่งไหลออกจากทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) ทางตะวันตกของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีพรมแดนติดกับประเทศฝรั่งเศส และมีสถานะเป็นเมืองหลวงของรัฐเจนีวา เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเงิน การทูต และสันติภาพระดับโลก เป็นที่ตั้งขององค์กรนานาชาติสำคัญกว่า 200 แห่ง เช่น สำนักงานใหญ่ขององค์การสหประชาชาติ (UN) และองค์การอนามัยโลก (WHO) ทำให้ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองหลวงแห่งสันติภาพ นอกจากนี้เจนีวายังมีชื่อเสียงในฐานะเมืองแห่งนาฬิกา เนื่องจากที่นี่เป็นบ้านเกิดของแบรนด์นาฬิกาหรูชื่อดังอย่าง Rolex, Patek Philippe และ Vacheron Constantin ทำให้เจนีวานั้นเป็นเมืองที่ผสมผสานทั้งประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ ความเป็นนานาชาติ และนวัตกรรมไว้อย่างลงตัว จึงไม่แปลกใจเลยที่เจนีวาจะเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการทัวร์สวิตเซอร์แลนด์อยู่เสมอ
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในเจนีวา
1. น้ำพุเจ็ตโด (Jet d’Eau)
น้ำพุยักษ์กลางทะเลสาบเจนีวาที่อยู่คู่กับนครเจนีวามานานถึงกว่า 100 ปี ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่ทุกคนต้องมาเห็นด้วยตาเมื่อมาทัวร์สวิตเซอร์แลนด์กันเลยค่ะ และถือเป็นหนึ่งในน้ำพุที่สูงที่สุดในโลก โดยสามารถพ่นน้ำได้สูงกว่า 140 เมตร เป็นปริมาณกว่า 500 ลิตรต่อวินาที เริ่มเปิดให้ชมกันทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 น. จุดชมวิวที่ดีที่สุดคือบริเวณท่าเรือหรือสวนอังกฤษ โดยเฉพาะในช่วงเย็นเมื่อแสงอาทิตย์สะท้อนผิวน้ำ และถ้าหากวันไหนที่อากาศแจ่มใสท้องฟ้าปลอดโปร่ง ก็สามารถมองเห็นเทือกเขามงต์บลังก์ของฝรั่งเศสเป็นฉากหลังวิวทะเลสาบอันงดงามอีกด้วย
2. ทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva)
ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ที่แบ่งเขตแดนระหว่างสวิตเซอร์แลนด์กับฝรั่งเศส งดงามด้วยผืนน้ำใสที่สะท้อนแสงและเงาของเทือกเขาแอลป์รอบด้าน ซึ่งเมื่อมองออกไปยังทะลสาบเจนีวาก็จะเห็นน้ำพุเจ็ดโด (Jet d’eau) ที่โดดเด่น โดยสามารถนั่งเรือท่องเที่ยว (CGN Cruise) ชมวิวเมืองและหมู่บ้านริมฝั่ง เดินเล่นเลียบทะเลสาบที่เต็มไปด้วยไปด้วยดอกไม้และบ้านเรือนที่สวยงาม หรือปั่นจักรยานรอบทะเลสาบในเส้นทางที่ร่มรื่น สำหรับสายถ่ายภาพบอกเลยว่าวิวช่วงพระอาทิตย์ตกดินนั้นสวยสุด ๆ ไปเลยค่ะ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ และชมทิวทัศน์ที่งดงามโรแมนติก
3. ย่านเมืองเก่าเจนีวา (Old Town Geneva)
ใครอยากสัมผัสบรรยากาศแบบยุโรปในยุคกลางแนะนำให้มาที่นี่กันเลยค่ะ เมืองเก่าเจนีวาเป็นย่านที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ในยุคกลาง มีตรอกซอกซอยแคบ ๆ ที่ปูด้วยหินกรวด อาคารโทนสีอบอุ่น เป็นที่ตั้งของจตุรัสปลาซดูบูร์ก เดอฟูร์ (Place du Bourg de Four) ซึ่งเป็นตลาดเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยโรมัน มีร้านค้าเก่าแก่หลายแห่ง โดยเฉพาะร้านช็อกโกแลต Maison Tavel และคาเฟ่ Café Papon ที่เปิดมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 โดยสามารถเดินเล่นเพื่อชมสถาปัตยกรรมและวิถีชีวิตของชาวเมือง หรือถ้ามาในช่วงที่อากาศหนาวเย็น แนะนำให้เช่าเสื้อกันหนาวดี ๆ แล้วมานั่งจิบเครื่องดื่มอุ่น ๆ กันที่จัตุรัสแห่งนี้ บอกเลยว่าฟินสุด ๆ
4. มหาวิหารเซนต์ปิแอร์ เจนีวา (Saint Peter's Cathedral Geneva)
โบสถ์เก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1535 เป็นโบสถ์หลักของคริสตจักรโปรเตสแตนต์แห่งเจนีวาและเป็นศูนย์กลางของการปฏิรูปศาสนาโปรเตสแตนต์ ในอดีตเคยเป็นที่ประทับของนักปฏิรูปศาสนา จอห์น คาลวิน (John Calvin) ภายในโบสถ์มีความงดงามด้วยการผสมผสานกันระหว่างสถาปัตยกรรมโกธิคและโรมาเนสก์ นักท่องเที่ยวที่มาทัวร์สวิตเซอร์แลนด์กันที่นี่สามารถขึ้นบันไดกว่า 150 ขั้นขึ้นไปยังหอคอยเพื่อชมวิวเมืองเก่าจากมุมสูงสุดโรแมนติก โดยในบางคืนของพระจันทร์เต็มดวง ทางมหาวิหารจะจัดงาน "The Nocturnes de St-Pierre" ให้ขึ้นไปบนหอคอยเพื่อชมทัศนียภาพอันกว้างไกลของเมืองโดยรอบภายใต้แสงจันทร์สุดโรแมนติก
5. พิพิธภัณฑ์ศิลปะและประวัติศาสตร์เจนีวา (Musée d’Art et d’Histoire)
หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ ตัวอาคารมีรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสกว้างด้านละ 60 เมตร จำนวนสี่ชั้น โดยมีพื้นที่จัดนิทรรศการกว่า 7,000 ตารางเมตร จัดแสดงผลงานศิลปะกว่า 1 ล้านชิ้น ทั้งภาพเขียน รูปปั้น และโบราณวัตถุ ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ยุคกลาง จนถึงศิลปะร่วมสมัย รวมไปถึงยุคอียิปต์โบราณ กรีกโบราณ อิตาลียุคก่อนโรมันและในยุคโรมัน มีผลงานของทั้งชาวอิตาลี ฝรั่งเศส อังกฤษ และสวิส รวมไปถึงผลงานของศิลปินชื่อดัง เช่น แวนโก๊ะ (Vincent van Gogh) และโมเนต์ (Claude Monet) เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเสพงานศิลป์และประวัติศาสตร์ยุโรป
6. สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ (Palais des Nations)
สำนักงานสหประชาชาติประจำเจนีวาตั้งอยู่ที่พระราชวังปาเลส์เดนาซิยงส์ (Palais des Nations) อันเก่าแก่ อาคารอันยิ่งใหญ่แห่งนี้เดิมสร้างขึ้นเพื่อสันนิบาตชาติในช่วงปี ค.ศ.1930 เป็นอาคารสไตล์อาร์ตเดโคอันงดงาม มองเห็นทะเลสาบเจนีวา เป็นศูนย์สหประชาชาติที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากสำนักงานใหญ่สหประชาชาติในนิวยอร์ก และเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมภายในได้ โดยจะมีไกด์บรรยายถึงประวัติขององค์กรและห้องประชุม Assembly Hall ที่ใช้จัดประชุมระดับโลกอยู่เสมอ เป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของเจนีวาในฐานะศูนย์กลางสันติภาพ
7. เก้าอี้หัก (Broken Chair)
งานประติมากรรมขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่หน้าพระราชวังปาเลส์เดนาซิยงส์ (Palais des Nations) หรือบริเวณตรงข้ามทางเข้าหลักของสหประชาชาติ (UN) เป็นอนุสาวรีย์เก้าอี้ไม้สูง 12 เมตรที่มีขาข้างหนึ่งถูกหัก สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1997 เพื่อรณรงค์ต่อต้านการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Landmines) และเพื่อเตือนใจให้ผู้คนได้ตระหนักถึงความทุกข์ทรมานของเหยื่อจากระเบิดเหล่านั้น รวมไปถึงเพื่อเรียกร้องสันติภาพ ถือเป็นสัญลักษณ์ที่ทรงพลังด้านมนุษยธรรม และเป็นจุดที่สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของเจนีวาในฐานะเมืองแห่งสันติภาพได้อย่างแท้จริง
8. นาฬิกาดอกไม้ (L’Horloge Fleurie)
อีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ห้ามพลาดเมื่อมาทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ที่เจนีวา ตั้งอยู่ภายในสวนอังกฤษ (Jardin Anglais) ริมฝั่งทะเลสาบเจนีวา สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองอุตสาหกรรมนาฬิกาที่ผสานรวมกันอย่างลงตัวเข้ากับธรรมชาติอันงดงามของเมือง โดยใช้ดอกไม้จริงกว่า 6,000 ดอกตกแต่งเป็นหน้าปัดนาฬิกาที่เดินได้จริงและทำหน้าที่บอกเวลาได้อย่างแม่นยำ มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 เมตร การจัดเรียงดอกไม้จะถูกปรับเปลี่ยนเพื่อให้สอดคล้องกับฤดูกาลและช่วงเวลาในการออกดอกของพันธุ์ไม้ดอก ทำให้เราสามารถเห็นความสวยงามของการจัดตกแต่งดอกไม้ที่แตกต่างกันไปในแต่ละครั้งที่ได้มาทัวร์สวิตเซอร์แลนด์กันเลยค่ะ
9. สวนอังกฤษ (Jardin Anglais)
สวนจาร์แดง อองแกลส์ (Jardin Anglais) หรือสวนอังกฤษ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1854 เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่สไตล์อังกฤษริมทะเลสาบเจนีวา ที่นี่เต็มไปด้วยดอกไม้ ต้นไม้ และทางเดินเลียบทะเลสาบอันงดงาม ไฮไลท์ของที่นี่คือนาฬิกาดอกไม้ (L’Horloge Fleurie) นั่นเองค่ะ ถือเป็นหนึ่งในสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญที่สุดของชาวเมือง มีม้านั่งหลายจุดให้ได้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ ดื่มด่ำกับวิวเทือกเขาแอลป์และทะเลสาบอันงดงาม และยังมีศิลปินท้องถิ่นมาแสดงดนตรีสร้างบรรยากาศในช่วงบ่ายอีกด้วย เป็นจุดที่ห้ามพลาดสำหรับการทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ที่เมืองเจนีวากันเลยค่ะ
10. พิพิธภัณฑ์นาฬิกาปาเต็ก ฟิลิปป์ (Patek Philippe Museum)
ที่นี่คือพิพิธภัณฑ์ของแบรนด์นาฬิกาหรูระดับโลก เปิดให้เข้าชมครั้งแรกในปี ค.ศ. 2001 ก่อตั้งขึ้นโดยตระกูลสเติอร์น (Stern Family) ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ Patek Philippe ในปัจจุบัน โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อบอกเล่าประวัติศาสตร์การสร้างสรรค์นาฬิกา และงานฝีมือเชิงศิลป์ที่ประณีตละเอียดลอออันเป็นเอกลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์ ตัวอาคารสร้างขึ้นในสไตล์นีโอคลาสสิกอันงดงาม มีการจัดแสดงนาฬิกามากกว่า 2,000 เรือน ตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 16 ไปจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะรุ่นหายากอย่าง Calibre 89 ซึ่งเคยถูกบันทึกว่าเป็นนาฬิกาที่มีความซับซ้อนที่สุดในโลก
11. สวนพฤกษศาสตร์เจนีวา (Conservatory and Botanical Garden)
อีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนยอดนิยมของชาวเมือง และจุดเช็คอินที่ไม่อยากให้พลาดเมื่อมาเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ที่เจนีวาค่ะ สวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1817 ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวาทางตอนเหนือของเมือง เป็นศูนย์วิจัยพฤกษศาสตร์หลักในกรุงเจนีวา มีพันธุ์พืชเฉพาะถิ่นจากภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลกกว่า 15,000 ชนิด มีเรือนกระจกที่แบ่งพืชเป็นโซนต่าง ๆ เช่น สวนอัลไพน์ (Alpine Garden) กล้วยไม้ เรือนกระจกเขตร้อน และสวนญี่ปุ่นเล็ก ๆ มีบรรยากาศที่เงียบสงบและให้ความรู้ในเชิงอนุรักษ์ เหมาะกับครอบครัวและผู้ที่รักต้นไม้เป็นอย่างยิ่งค่ะ
12. พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย MAMCO (Musée d’art moderne et contemporain)
พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่คนรักศิลปะไม่ควรพลาดเมื่อมาทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ที่เจนีวาค่ะ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1994 ภายในอาคารโรงงานเก่าที่ได้รับการบูรณะใหม่ จัดแสดงผลงานของศิลปินระดับโลกทั้งชาวสวิสและศิลปินนานาชาติ เช่น Christian Boltanski, Sol LeWitt, John Armleder, และ Sylvie Fleury รวมถึงศิลปินหน้าใหม่ที่กำลังมีชื่อเสียง โดยนิทรรศการจะเปลี่ยนหมุนเวียนอยู่เสมอในทุกไตรมาส ทำให้มาเยี่ยมชมกันได้ไม่รู้เบื่อ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมุมมองและแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ได้เป็นอย่างดี
13. ย่านคารูจ (Carouge)
หากอยากสัมผัสอีกมุมหนึ่งของเจนีวาที่เงียบสงบ อบอุ่น และมีเสน่ห์แบบยุโรปตอนใต้ แนะนำให้มาที่นี่เลยค่ะ ย่านเก่าแก่ที่ถูกขนานนามว่าเป็น “Little Italy of Geneva” เพราะสถาปัตยกรรมและบรรยากาศนั้นได้รับอิทธิพลจากเมืองตูริน (Turin) ของประเทศอิตาลีอย่างชัดเจน ย่านนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 โดยราชวงศ์ซาร์ดิเนีย ที่ต้องการออกแบบเมืองแห่งนี้ให้เป็นพื้นที่พักผ่อนของชนชั้นสูงและศิลปิน จึงเต็มไปด้วยตึกอิฐสีพาสเทล หน้าต่างโค้ง ระเบียงไม้ที่มีดอกไม้ประดับ และตรอกซอกซอยเล็ก ๆ ที่มีกลิ่นอายของยุโรปเก่าแบบคลาสสิก และยังเป็นแหล่งรวมร้านกาแฟ ร้านเบเกอรี่น่ารัก ๆ และร้านค้าร้านอาหารต่าง ๆ อีกด้วย
14. ยอดเขามงต์ซาเลฟ (Mont Salève)
จุดชมวิวธรรมชาติที่โดดเด่นที่สุดของเมืองเจนีวา อยู่ห่างจากใจกลางเมืองเพียง 20 นาที โดยสามารถนั่งกระเช้าไฟฟ้า (Téléphérique du Salève) เพื่อขึ้นไปถึงยอดเขาที่ความสูงประมาณ 1,379 เมตรจากระดับน้ำทะเล จากบนยอดเขาสามารถมองเห็นวิวเมืองเจนีวา ทะเลสาบ และเทือกเขาแอลป์ที่งดงามตระการตาได้แบบพาโนรามา กิจกรรมยอดนิยมของที่นี่ได้แก่ การเดินป่า ปีนเขา พาราไกลดิ้ง (Paragliding) จักรยานเสือภูเขา (Mountain Biking) และหากมาทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ในช่วงปลายปี จะได้เห็นยอดเขาถูกปกคลุมด้วยหิมะและสามารถเล่นสกีได้ อย่าลืมเช่าเสื้อกันหนาวดี ๆ ขึ้นมาสัมผัสบรรยากาศกันค่ะ
เมืองเจนีวา (Geneva) คือภาพสะท้อนอันงดงามของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติ วัฒนธรรม และความเป็นสากลได้อย่างลงตัว ทุกมุมของเมืองนั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวและความงามที่รอให้เราได้เดินทางไปค้นพบ มีสถานที่ท่องเที่ยวให้เลือกครบทุกแนว ไม่ว่าจะเป็นความสงบสวยงามของทะเลสาบเจนีวา สวนพฤกษศาตร์ที่เต็มไปด้วยพืชพรรณ ความยิ่งใหญ่องค์การนานาชาติและพิพิธภัณฑ์ระดับโลก รวมไปถึงความอบอุ่นของย่านเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและเรื่องราวในอดีต ใครที่กำลังวางแผนมาทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ เจนีวาถือเป็นอีกหนึ่งเมืองเริ่มต้นในการท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริงค่ะ